Last updated: 29 Apr 2024 | 361 Views |
5 ปัจจัยที่ทำให้แฟลชไดร์ฟ เสื่อมสภาพและใช้งานไม่ได้!
แฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สะดวกและพกพาสะดวก แต่ก็มีอายุการใช้งานจำกัด การดูแลรักษาแฟลชไดร์ฟอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และป้องกันข้อมูลสูญหาย
แฟลชไดร์ฟไม่มีวันหมดอายุ ในทางทฤษฎีแล้ว
แต่มีปัจจัยบางประการที่อาจทำให้แฟลชไดร์ฟเสื่อมสภาพและใช้งานไม่ได้ ดังนี้ :
1. การสึกหรอ : การเขียนและลบข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟซ้ำๆ จะทำให้หน่วยความจำแฟลชเสื่อมสภาพ โดยทั่วไปแล้ว แฟลชไดร์ฟมีอายุการใช้งานประมาณ 10,000 ถึง 50,000 รอบการเขียน
2. ความร้อน : การสัมผัสกับความร้อนสูงเป็นเวลานานอาจทำให้ชิปหน่วยความจำแฟลชเสียหาย ไม่ควรเก็บแฟลชไดร์ฟในรถที่จอดอยู่กลางแจ้งหรือใกล้แหล่งความร้อน
3. แรงกระแทก : การทำแฟลชไดร์ฟตกหรือกระแทกอาจทำให้ชิปหน่วยความจำเสียหาย ควรเก็บแฟลชไดร์ฟในที่ปลอดภัยและป้องกันไม่ให้ตก
3. ไฟฟ้าสถิต : ไฟฟ้าสถิตสามารถทำลายชิปหน่วยความจำแฟลชได้ ควรปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตออกจากตัวก่อนเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์ไวรัส : ไวรัสสามารถทำลายข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟได้ ควรสแกนแฟลชไดร์ฟด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัสเป็นประจำ
วิธีดูแลรักษาแฟลชไดร์ฟให้ใช้งานได้ยาวนาน
เก็บแฟลชไดร์ฟในที่ปลอดภัย
เก็บแฟลชไดร์ฟในกล่องหรือซองที่ป้องกันฝุ่นละออง ความชื้น และแรงกระแทก
หลีกเลี่ยงการเก็บแฟลชไดร์ฟในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือเย็นจัด
ไม่ควรเก็บแฟลชไดร์ฟไว้ใกล้กับแหล่งกำเนิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น ลำโพง มอเตอร์ หรือหม้อแปลง
2. ถอดแฟลชไดร์ฟออกจากคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้อง
ก่อนถอดแฟลชไดร์ฟออกจากคอมพิวเตอร์ ควรไล่ออกจากอุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการทุกครั้ง
ไม่ควรดึงแฟลชไดร์ฟออกจากคอมพิวเตอร์โดยตรง
การถอดแฟลชไดร์ฟออกโดยไม่ไล่ออกจากอุปกรณ์ อาจทำให้ข้อมูลเสียหายหรือสูญหายได้
3. หลีกเลี่ยงการเขียนข้อมูลลงบนแฟลชไดร์ฟบ่อย ๆ
การเขียนข้อมูลลงบนแฟลชไดร์ฟบ่อยๆ จะทำให้หน่วยความจำเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ควรสำรองข้อมูลลงบนฮาร์ดดิสก์หรือบริการเก็บข้อมูลออนไลน์เป็นประจำ
เขียนข้อมูลลงบนแฟลชไดร์ฟเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น
4. ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส
สแกนแฟลชไดร์ฟด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัสเป็นประจำ
ไวรัสสามารถทำลายข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟได้
การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสจะช่วยป้องกันข้อมูลสูญหาย
5. สำรองข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟเป็นประจำ
ข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟอาจสูญหายได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสื่อมสภาพของหน่วยความจำ ไวรัส หรือการใช้งานผิดพลาด
ควรสำรองข้อมูลบนแฟลชไดร์ฟเป็นประจำลงบนฮาร์ดดิสก์หรือบริการเก็บข้อมูลออนไลน์
การสำรองข้อมูลจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะไม่สูญหาย
6. เลือกรุ่นแฟลชไดร์ฟที่มีคุณภาพ
เลือกรุ่นแฟลชไดร์ฟที่มีการรับประกันจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง
เลือกรุ่นแฟลชไดร์ฟที่มีความจุเพียงพอสำหรับความต้องการใช้งาน
เลือกรุ่นแฟลชไดร์ฟที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่สูง
การดูแลรักษาแฟลชไดร์ฟอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันข้อมูลสูญหาย
นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว ยังมีข้อควรระวังอื่น ๆ
ไม่ควรแชร์แฟลชไดร์ฟกับผู้อื่น
ไม่ควรเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก
ไม่ควรทำแฟลชไดร์ฟตกหรือกระแทก
การปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้แฟลชไดร์ฟของคุณใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัย